05 | โรคที่มากับน้ำท่วม : น้ำกัดเท้า

น้ำกัดเท้า

โรคฮิตติดน้ำที่มากับน้ำท่วมอีกโรคคงหนีไม่พ้น "น้ำกัดเท้า" หรือ "ฮ่องกงฟุต"
เออทำไมเรียกฮ่องกงฟุตก็ไม่รู้เนอะ ส่วนภาษาอังกฤษเรียก Athlete's foot (โรคทีนนักกรีฑา)
นั่นแหละค่ะ

อาการก็คือ คัน ตามง่ามนิ้วเท้า เท้าเปื่อย แสบ ถ้ายิ่งไปเกาจนเกิดแผลจะยิ่งง่ายต่อการติดเชื้อ
ถ้าติดเชื้อแบคทีเรียก็มักจะมีอาการอักเสบ ปวดบวมแดงร้อน ถ้าเป็นเชื้อราก็มักมีผิวหนังแตกเป็นขุย หลุดลอก ที่เหมือนกันคือคันมว้ากกก ยิ่งคันยิ่งเกา ยิ่งเกายิ่งมัน เลยยิ่งติดเชื้อง่ายเข้าไปอีก

เฮ วนกลับเข้าวงจรอุบาทว์เหมือนเดิม

น้ำกัดเท้า

สำหรับโรคนี้

การป้องกันคือการรักษาที่ดีที่สุด



แต่ในยุคน้ำท่วมทุ่งเช่นปัจจุบัน การหลีกเลี่ยงไม่ย่ำลงไปในน้ำทำได้ยาก
โดยเฉพาะที่ที่น้ำท่วมสูง แต่ถ้ายังพอป้องกันได้ ก็ป้องกันเถอะค่ะ
เดี๋ยวนี้มีนวัตกรรมใหม่ๆ เพียบ จะบู้ตลายดอก บู้ตลายสก๊อต หรือบู้ตถุงดำ เวิร์กทั้งนั้นค่ะ
อย่าคิดว่าโชว์แมนลงไปย่ำน้ำแล้วจะเท่ นอกจากจะเสี่ยงน้ำกัดแล้ว
ยังเสี่ยงสารพัดโรคที่มากับน้ำอีก เดี๋ยวคราวหน้าจะเขียนถึง

เห็นกรมควบคุมโรคเขาทำคลิปวิธีทำบู้ตถุงดำเอาไว้ กดดูโลดเลยจ้ะ เข้าท่าน่าใช้มากๆ เจ๋ง

http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=xWMBGJ-dSiU

ส่วนในคนที่หลีกเลี่ยงน้ำไม่ได้จริงๆ วาสลีน หรือขี้ผึ้งมันๆ ช่วยท่านได้ค่ะ
ทาตามง่ามนิ้วเท้าจะช่วยลดโอกาสที่น้ำจะซึมผ่านผิวหนังเข้าไปได้
ถ้าหาไม่ได้ใช้ขี้ผึ้งวิทฟิลด์ หรือขี้ผึ้งแก้น้ำกัดเท้าอื่นๆ ใช้แทนได้เหมือนกัน

ขี้ผึ้ง Whitfield
หน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ ขอบคุณภาพประกอบจาก ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย (ชื่อน่ารักอ้ะ ชอบ หยี)

หลังจากย่ำน้ำแล้ว กลับมาบ้านให้ล้างเท้าฟอกสบู่ให้สะอาดค่ะ
สำหรับยุคน้ำน้อย แช่น้ำด่างทับทิมซัก ๒-๓ เกล็ด ให้ได้น้ำสีชมพูจาง
แช่เท้าไว้ประมาณ ๑๕ นาทีก็ช่วยได้เช่นกัน ด่างทับทิมจะช่วยฆ่าเชื้อได้

ล้างเท้าเสร็จก็เช็ดเท้าให้แห้งแล้วโรยแป้งฝุ่นกันอับชื้น
เห็นมีคนบอกว่าถ้าเท้าเหม็น ลองแช่เท้าในน้ำชาดูจะช่วยได้ ลองกันดูค่ะ

สำหรับใครที่สำรวจดูแล้วพบว่าเริ่มมีอาการของโรคน้ำกัดเท้าแล้ว
อย่าเพิ่งตกใจรีบหายากินยาทา ให้ดูก่อนว่าเท้าเราโดนกัดไปถึงไหนแล้ว

  • ระยะยังไม่ติดเชื้อ จะมีอาการเท้าเปื่อย ลอก แดง คัน แสบ ใช้ยาขี้ผึ้งวิทฟิลด์
    หรือขี้ผึ้งทาแก้น้ำกัดเข้าสูตรกำมะถันทาถูบริเวณที่มีอาการเช้า กลางวัน เย็น
    จะช่วยลดอาการคันได้ ที่สำคัญคืออย่าไปเกาให้แผลมันลุกลาม
    เดี๋ยวยิ่งเปิดทางให้เชื้อโรคเข้าง่ายขึ้นไปอีก


  • ระยะติดเชื้อแล้วล่ะ ลองดูว่าเราติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา อย่าเพิ่งส่ายหน้า ดูไม่ยากค่ะ

น้ำกัดเท้า
ครอปมาจากภาพของคุณ paradoo ตามไปดูภาพจริงได้นะคะ

ถ้าเป็น แบคทีเรีย จะเริ่มมีอาการอักเสบ ปวด บวม แดง ร้อน อย่างชัดเจน
หรืออาจเริ่มมีหนอง อันนี้ต้องล้างแผลด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อแล้วล่ะ
ใช้น้ำเกลือล้างแผล หรือน้ำด่างทับทิม แล้วทายาฆ่าเชื้อพวกโพวิโดนไอโอดีน (เบตาดีน) หรือทิงเจอร์ไอโอดีน (แสบกว่าหน่อย) ถ้าเกิดมันรุนแรงเรื้อรังมากก็ควรหาหมอแล้วล่ะค่ะ จะได้กินยาให้ถูกเชื้อ ทำแผลให้ถูกต้อง

น้ำกัดเท้า
อันนี้เสิร์ชกาจากกูเกิลฮับ หาที่มามิได้

ส่วน เชื้อรา จะคันมหาศาล หนังลอกเป็นขุย แบบนี้ใช้ขี้ผึ้งวิทฟิลด์เหมือนเดิมก็ได้
ที่แนะนำแบบขี้ผึ้งมากกว่าแบบครีมเพราะติดทนนานกว่า แต่ก็จะเหนอะหนะนิดนึง
แทบจะเรียกได้ว่าขี้ผึ้งวิทฟิลด์นี่ เป็นยาครอบจักรวาลสำหรับสู้น้ำท่วมเลย เพราะใช้ได้ทั้งป้องกันทั้งรักษา

ที่สำคัญอีกอย่างคือ ควรใช้ยาอย่างต่อเนื่อง หลังหายดีแล้วควรใช้ยาต่อไปอีก ๒ สัปดาห์
เพื่อป้องกันการกลับเป็นซ้ำ เชื้อราอาจดูบุกรุกแบบนุ่มนวลน่ากลัวน้อยกว่าแบคทีเรีย
แต่ถ้าเริ่มรุกเข้าไปที่เล็บแล้วละก็ ควรปรึกษาหาหมอแล้วนะคะ จะได้กินยาให้ถูกเชื้อเช่นกัน

หวังว่าคงจะช่วยให้เข้าใจเกี่ยวกับโรคน้ำกัดเท้ากัดมากขึ้นนะคะ
สงสัยอะไรคอมเมนต์ถามไว้ก็ได้ ยินดีเข้ามาตอบ หรือถ้าตอบไม่ได้จะไปถามผู้รู้มาให้ค่ะ
แล้วเราจะฝ่าน้ำท่วมไปด้วยกัน (โอ้ว อารมณ์โมเสสมาก)

ป.ล. ระหว่างค้นข้อมูล ไปเจอว่าสมัยนึงคนกรุงเทพนิยมเรียกโรคน้ำกัดเท้าว่า "ธรรมนูญฟุต"
เพราะต้องลุยน้ำท่วมกันสมัยคุณธรรมนูญ เทียนเงิน เป็นผู้ว่าฯกทม.เมื่อปี ๑๘
สมัยนี้ลองมาลุ้นกันว่าจะเป็นทีนใคร.. เอิ๊ก