33 | คนละก้าว


















25 - 11 - 60


ขอบันทึกไว้ว่า วันนี้เป็นวันที่บัวขาวหันมาจับมือเราแล้วบอกว่า
สุดยอดเลยครับ! ผมเชียร์อยู่!!
วันที่ทะลุกำแพงมินิของตัวเอง แล้ววิ่งไปเกือบ 15 กิโล

เอาจริงวินาทีที่พี่ตูนเข้ามาทักทายตรงจุดสตาร์ท แล้วบอกว่าเซ็ทนี้ สิบสี่โลกว่านะครับ
บอกเลยว่ามีความยิ้มค้าง OMG 14 km 
ตอนนั้นกดโทรศัพท์หาพี่ต๊อกกายภาพเลย ว่าช่วยเก็บศพตูด้วย 5555

แต่พอออกวิ่งจริง มีคนมารอต้อนรับตลอดทาง
เราเดินบ้างวิ่งบ้าง พี่ตูนหยุดทักทายเด็ก คนแก่ อาทิวราห์เซอร์วิสตามรายทาง
มันเหมือนเราวิ่งผ่านท่ามกลางพลังบวกตลอดเวลา
เหมือนเป็นสถานที่ที่ทุกคนปรารถนาดีต่อกันอย่างแท้จริง
จริงอย่างที่พี่เอ็ดบอก ต้องมายืนตรงนี้จริงๆถึงจะรู้
ต้องมาวิ่งด้วยจริงๆ ถึงจะรู้สึก
แค่ยืนมองก็มีความสุขแล้ว 

อีกอย่าง เรารู้สึกว่าคนบางสะพานน่ารักมาก
ทุกคนรักพี่ตูน แต่ไม่มีใครต้องการพี่ตูนมาเป็นของตัวเอง
ทุกคนแค่ต้องการมาให้กำลังใจ ไม่รุม ไม่ล้อม ไม่ล้ำเส้น
เรามายืนตรงนี้เพื่อมาส่ง

แต่แน่นอน ต้องชื่นชมบัวขาวด้วย ดีดมาก วิ่งดักตลอดทาง
เคลียร์ทางให้พี่ตูนล่วงหน้าตลอด
มอไซค์ชะลอถ่ายรูปยังวิ่งไปตบหัว
ขืนใครเข้ามาขวางคงโดนบัวขาวต่อย

ยิ่งใกล้เมือง ยิ่งสนุก คนยิ่งเยอะ
ปีที่แล้ว มีคนมารอรับพี่ตูนมากขนาดไหน
ปีนี้เราว่าก็มีคนมารอรับพี่ตูนมากขนาดนั้น
ต่างกันที่ว่า เรายืนเรียงแถวรอรับด้วยความรัก
เราสนุก เราเจอหน้ากันทุกคนแบบไม่เบียดเสียด
เหมือนที่พี่ตู้กับพี่ซาด๊าสว่า ทุกอย่างที่เราหวัง มาผลิดอกออกผลที่บางสะพาน

เราวิ่งกันมาเรื่อยๆ บางโค้งถนนพี่ตูนก็สปีดทำเวลา
ยังพอวิ่งเกาะกลุ่มไหว วิ่งบ้างเดินบ้าง
แต่พอเริ่มหลุดเมือง เลี้ยวเข้าเส้นอุทยานเท่านั้นล่ะ
เส้นทางยาวไกลไร้ผู้คน
พี่ตูนก็เริงร่าเร่งสปีด
พี่ต๊อกโทรมาหาถามว่าไหวป่าว บอกไปอย่างมั่นใจว่า ไหวๆ ถึงนี่แล้วต้องไปต่อ
มองดูนาฬิกา เราวิ่งๆเดินๆ มาแปดโลแล้ว 
เหลืออีกแค่หกโลเองครับ! ทีมงานให้กำลังใจเรา
คิดในใจว่า ไม่แค่นะ ตั้งหกโล

ขบวนเริ่มวิ่งห่างเราไปทุกที HR เราพุ่งกระฉูด
รู้สึกหัวใจเต้นเร็วจนได้ยินเสียงตุบๆ ในหู
จนในที่สุด.... ก็มีคนมาดักให้กำลังใจพี่ตูน
และช่วยชีวิตเรา 555555

ไม่คิดเลยว่าการเห็นฝูงชนจะทำให้เรามีกำลังใจขนาดนี้
น้ำตาจิไหล....

ยังไม่ทันหายหอบ พี่ตูนก็เริ่มวิ่งต่อ 
กัดฟันวิ่งต่อไปอีกระยะ เราเริ่มโดนทิ้งห่างไปอีก 
ไม่ไหวละ ยกมือขอเข้าข้างทาง เราตามเพซพี่ตูนไม่ทันจริงๆ
แต่เราก็ยังคงวิ่งต่อไปเรื่อยๆ ด้วยเพซของเรา
*ตอนนี้ เรา ประกอบไปด้วยข้าพเจ้าและพี่โบ สต๊าฟสูติที่ รพ.

พี่เอ็ดโทรมาถามด้วยความเป็นห่วงว่าอยู่ตรงไหนกัน โอเคมั้ย
ได้แต่บอกไปว่า โอเค เราอยู่ท้าย แต่เราจะไปเรื่อยๆ
ไม่น่าเชื่อว่า เราก็ตามทันเป็นระยะๆ จริงๆ
ตอนนั้นดีใจมาก ในที่สุดก็วิ่งทัน

เรามารู้ทีหลังว่า ช่วงเวลาที่พี่เอ็ดโทรหาเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่จู่ๆ พี่ตูนก็ชะลอเป็นเดิน 
โดยที่ไม่มีกลุ่มคน ไม่มีสาเหตุ... เราคิดเอาเองว่าพี่ตูนได้ยินและรอเรา
เขาใส่ใจทุกคน แม้กระทั่งคนที่วิ่งอยู่ข้างหลังเขาจริงๆ
พี่ตูนต้องมีตาหลังกับหูทิพย์แน่ๆ

แต่พอวิ่งต่อพี่ก็สปีดยังกะกระต่าย
เราล้าหลังอีกครั้ง และอีกครั้ง
แล้วก็ไล่กวดทันอีกครั้ง และอีกครั้ง
แต่ละครั้งเหนื่อยแทบขาดใจ 

ทีมงานเข้ามาให้กำลังใจเราเรื่อยๆ
... สี่โลแล้วครับ ...อีกนิดเดียว ...สองโลครับสองโล...
รถพยาบาลวิ่งช้าๆ ตามหลังเรา มีครั้งนึงวิ่งมาขนาบข้าง
... และเปิดประตูทิ้งไว้ให้แอร์พ่นใส่เรา 555+
แต่เราไม่ขึ้นหรอก เราหยิ่ง

ต้องขอบคุณจริงๆ เราซาบซึ้งมาก
แต่ครั้งนี้ เราอยากชนะตัวเอง
ต้องขอบคุณทีมงานด้วยที่ยอมให้เต่าอย่างเรา ไต่ระดับเข้าไปหากระต่ายได้ทุกครั้ง

และครั้งสุดท้าย เราไล่กระต่ายทันในก้าวที่ "เก้าร้อย"

เฮ้ย โคตรยิ่งใหญ่ 

ที่จุดสตาร์ท เราเห็นรถการ์มินผ่านหน้าเราไป ยังคิดอยู่ว่า อยากถ่ายรูปกับรถคันนี้จัง
ใครจะไปรู้ ว่าในที่สุดเราก็ได้มีรูปคู่กับรถในหมุดหมายที่ เก้าร้อย 
การได้เป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์นี้มันยิ่งใหญ่สำหรับเรามากจริงๆ
มาย้อนดูในไลฟ์ เส้นยาแดงผ่าแปดมากที่วิ่งเข้ามาทัน 

ดีใจได้สักพัก พ่อกระต่ายก็สปีดไปต่อ 
ทิ้งให้เต่าอย่างเราหอบแฮ่กอยู่ข้างหลังเหมือนเดิม
ทีมงานบอกเราว่า อีกโลเดียวครับ!
เราฮึดขึ้นมาอีกครั้ง ออกวิ่งต่อไปด้วยร่างกายพังๆ อาจจะด้วยสปีดไม่เร็วไปกว่าเดิน
แต่เราก็ไปต่อ 
และเข้าเส้นชัย 

เส้นชัยเป่าลมถูกเก็บไปหมดแล้ว
เรามาไม่ทันถ่ายรูปรวม
แต่บอกตรงๆ โคตรดีใจ เราชนะ! เราทำได้!
และมันยิ่งพีคเข้าไปอีก เมื่อบัวขาวหันมาขอจับมือกับเรา

สุดยอดเลยครับ! ผมเชียร์อยู่!!




Comments